Last updated: 11 ก.พ. 2563 | 3579 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัจจุบันความรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่อาศัยในร่างกายมนุษย์ขยายวงกว้างมากขึ้น จนทำให้ทราบว่าสิ่งใดเป็นคุณและเป็นโทษต่อร่างกาย สิ่งมีชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเรามีมากมายหลายชนิด รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เราเรียกว่า " Probiotics "
คำว่า " Probiotics " หมายถึง อาหารเสริมที่เป็นจุลชีพเล็กๆที่ยังมีชีวิต เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วช่วยให้ผู้นั้นมีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งอาจช่วยป้องกันหรือรักษาโรคต่างๆที่เกิดขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของจุลชีพต่างๆในร่างกาย ส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรียที่เคยมีในลำไส้ในสมัยเป็นเด็กทารก ซึ่งมีอยู่มากมายหลากหลายชนิด และยังมีคำที่เกี่ยวข้องอื่นๆที่ควรทราบ คือ
Prebiotics หมายถึงสารอาหารที่ไม่มีชีวิต ไม่ถูกย่อยในกระเพาะอาหารเมื่อรับประทานเข้าไป แต่จะไปช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตหรือการทำหน้าที่ของแบคทีเรียในทางเดินอาหาร เช่น ในช่องปาก และลำไส้ชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ Lactobacilli และ bifidobacteria ตัวอย่างสารอาหารในกลุ่มนี้ ได้แก่ oligofructose, fructo oligosaccharides, inulin, polyfructose, chicory root extract
Synbiotics หมายถึง อาหารเสริมที่ได้จากการผสมกันระหว่าง probiotics และ prebiotics ซึ่งทำให้เกิดการเสริมฤทธิ์กันในร่างกายของผู้ที่รับประทานเข้าไปช่วยส่งเสริมให้เกิดคุณประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างเต็มที่ และทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น
Normal intestinal flora หมายถึง จุลชีพที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์โดยไม่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย แต่ช่วยให้ร่างกายมีระบบภูมิต้านทานที่สมดุลและทำหน้าที่เป็นปกติ
Functional food หรือ Health food หมายถึง สารที่ร่างกายได้รับเข้าไป (ไม่จำเป็นต้องเป็นสารอาหารเสมอไป) แล้วช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ทำให้มีผลดีต่อสุขภาพโดยรวม หรือทำให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจมากกว่าผลลัพธ์จากอาหารทั่วๆไป
เป้าหมายที่สำคัญของ functional foods มักเน้นไปยังหน้าที่ของระบบในทางเดินอาหาร โดยจะไปควบคุมให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้เป็นปกติ ทำให้เนื้อเยื่อต่างๆ ของลำไส้สมบูรณ์และทำหน้าที่ทั้งดูดซึม และซ่อมแซมส่วนสึกหรอได้อย่างเหมาะสม ทำให้ขับถ่ายได้เป็นไปตามธรรมชาติ และช่วยให้จุลินทรีย์ต่างๆในลำไส้อยู่อย่างสมดุล ร่างกายได้รับสารอาหารเต็มที่และมีภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆ (ซึ่งในช่องปาก ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในระบบทางทางอาหาร และเป็นด่านแรกของระบบทางเดินอาหาร ที่จำเป็นจะต้องมีอย่างยิ่งสำหรับความสมดุลของเชื้อจุลินทรีย์ในช่องปาก Homeostasis of Oral Microbiome ....แนวคิดนี้ ถือเป็นนัยยะอย่างเดียวกันอย่างสมเหตุสมผล-Make sense)
โดยหลักการ probiotics จะต้องเป็นจุลินทรีย์ที่มีในร่างกายมนุษย์อยู่แล้วและต้องยังคงสภาพที่มีชีวิต ซึ่งทนต่อสภาพกรดและอยู่ในน้ำได้ดี โดยสามารถยึดเกาะกับเนื้อเยื่อในช่องปาก เยื่อบุผนังลำไส้ และให้ประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ โดยไม่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย
หน้าที่หลักของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารและลำไส้มี ๓ อย่าง ได้แก่
๑. ช่วยย่อยสลายและหมักสารอาหารหรือเนื้อเยื่อของลำไส้ ให้เป็นพลังงานในรูปของ short-chain fatty acids ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นมากบริเวณลำไส้ใหญ่ซีกขวา ตั้งแต่ส่วนที่ต่อจากลำไส้เล็กขึ้นไป นอกจากนี้ยังช่วยสร้างวิตามินเค (ซึ่งวิตามินเค 2-vitamin K 2 นั้นมีส่วนสำคัญในกลไกการซ่อมแซมเนื้อฟัน-dentine และกระดูก-bone ให้คงสภาพและสามารถฟังก์ชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ) และช่วยดูดซึมฟอสฟอรัส แคลเซี่ยม แมกนีเซี่ยม และเหล็ก ในบริเวณนั้นๆ
๒. ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เนื้อเยื่อของลำไส้ โดยผลของ short-chain fatty acids (acetate, propionate, butyrate) กระตุ้นให้ลำไส้เปลี่ยนสภาพ เพื่อให้ทำงานดูดซับสารอาหารได้เต็มที่และปรับเปลี่ยนไม่ให้เซลล์กลายเป็นมะเร็ง และยังช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิต้านทานของร่างกายทั้งในเนื้อเยื่อ และในกระแสโลหิต ซึ่งมีผลโดยตรงต่อ Innate Immunity-Antimicrobial Peptides หรือโปรตีนต้านจุลินทรีย์ในแต่ละตำแหน่งต่างๆของเนื้อเยื่อในร่างกาย ซึ่งหมายรวมถึง เนื้อเยื่อในช่องปากและฟัน
๓. ทำหน้าที่เป็นเกราะปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมทั้งหลาย โดยเฉพาะจากการแทรกซึมของเชื้อโรคจากภายนอกร่างกาย โดยการแย่งเกาะผนังทางเดินอาหารและลำไส้ ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคผ่านเขาไปได้ และอาจแย่งชิงสารอาหารจากเชื้อโรคที่หลุดเข้าไปในร่างกาย รวมทั้งปล่อยสารยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรคที่ก่อโรค เช่น Bacteriocins
Reference: โปรไบโอทิคส์
อุทัย เก้าเอี้ยน
Probiotics, Khow-ean U.
Department of Internal Medicine, Faculty of Medicine,
Prince of Songkla University, Hat Yai, Songkhla, 90110, Thailand
23 ม.ค. 2563
3 มี.ค. 2562